พฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา : ความฉลาดทางอารมณ์ พลังสุขภาพจิต และพฤติกรรมการเผชิญความเครียด
คำสำคัญ:
การเผชิญความเครียด, พลังสุขภาพจิต, ความฉลาดทางอารมณ์บทคัดย่อ
????????? งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคลในการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา 2) เพื่อศึกษาระดับความฉลาดทางอารมณ์ พลังสุขภาพจิต พฤติกรรมการเผชิญความเครียด และพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ พลังสุขภาพจิต พฤติกรรมการเผชิญความเครียด ที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา4) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ที่มีผลต่อพลังสุขภาพจิต, พฤติกรรมการเผชิญความเครียด และพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา, พลังสุขภาพจิตที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา พฤติกรรมการเผชิญความเครียดที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา และ5) เพื่อพยากรณ์ปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคล จากองค์ประกอบของพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา ความฉลาดทางอารมณ์ พลังสุขภาพจิต และพฤติกรรมการเผชิญความเครียด
????????? ผลการวิจัย พบว่า ข้อมูลคุณลักษณะปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่าง (การเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา) จำนวน 200 รูป (100%) พบว่า ส่วนมากอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่เชียงใหม่จำนวนพื้นที่ละ 100 รูป (50%) เท่ากัน และส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-39 ปีจำนวน 79 รูป (39.5%), มีจำนวนพรรษาเฉลี่ยที่ 10-20 พรรษาจำนวน 170 รูป (85%), มีระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีจำนวน 111 รูป (55.5%) และมีสถานภาพสมรส โสดจำนวน 136 รูป (68.0%)
????????? โดยมีระดับความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มตัวอย่าง (การเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนา) มีระดับพฤติกรรมต่อความฉลาดทางอารมณ์ (มาก) โดยมีค่าเฉลี่ย (, 3.862) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.525) ผลรายด้านพบว่ามีระดับพฤติกรรมต่อความฉลาดทางอารมณ์ในรายด้านการตระหนักรู้ในตนเอง (มาก) มีค่าเฉลี่ย (, 4.061) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.664) ระดับพฤติกรรมพลังสุขภาพจิตของกลุ่มตัวอย่างมีระดับพฤติกรรมต่อพฤติกรรมพลังสุขภาพจิต (ปานกลาง) โดยมีค่าเฉลี่ย (, 3.440) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.402) ผลรายด้านพบว่ามีระดับพฤติกรรมต่อพฤติกรรมพลังสุขภาพจิตในรายด้านการต่อสู้เอาชนะอุปสรรค (มาก) มีค่าเฉลี่ย (, 3.642) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.593) ระดับพฤติกรรมการเผชิญความเครียดของกลุ่มตัวอย่างมีระดับพฤติกรรมการเผชิญความเครียด (ปานกลาง) โดยมีค่าเฉลี่ย (, 3.443) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.406) ผลรายด้านพบว่ามีระดับพฤติกรรมการเผชิญความเครียดในรายด้านแบบมุ่งเน้นการแก้ปัญหา (มาก) มีค่าเฉลี่ย (, 3.736) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.604) ระดับพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนาของกลุ่มตัวอย่าง (ปานกลาง) โดยมีค่าเฉลี่ย (, 2.957) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.338) ผลรายด้านพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีระดับพฤติกรรมการเป็นสมมุติสงฆ์ที่ดีในทางพุทธศาสนาในรายด้านแบบพฤติกรรมการให้ความร่วมมือ (ปานกลาง) มีค่าเฉลี่ย (, 3.470) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D, 0.693) และสมมติฐานการวิจัยที่ 1, สมมติฐานการวิจัยที่ 1.1, สมมติฐานการวิจัยที่ 1.2, สมมติฐานการวิจัยที่ 1.3, สมมติฐานการวิจัยที่ 1.4 และสมมติฐานการวิจัยที่ 1.5 สถิติที่นำมาใช้ในการทดสอบ คือค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson?s Product Moment Correlation) ผลการทดสอบสมมติฐานยอมรับสมมติฐานที่ 1, 1.1, 1.2, 1.3, 1.4, 1.5, ยอมรับสมมติฐานที่ 2, 2.1, 2.2, 2.3, 2.4, 2.5, ยอมรับสมมติฐานที่ 3, 3.1, 3.2, 3.3, 3.4, 3.5, ยอมรับสมมติฐานที่ 4 และ4.3, ยอมรับสมมติฐานที่ 5, 5.1 และ5.2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และสมมติฐานการวิจัยที่ 6 สถิติที่นำมาใช้ในการทดสอบ คือการถดถอยเชิงพหุแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการทดสอบสมมติฐานยอมรับสมมติฐานที่ 6 การทำนายปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคล (พื้นที่), (อายุ), (ระดับการศึกษา) และ(สถานภาพสมรส) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
References
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. งานประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข. 2562. หน้า 24.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. อีคิว : ความฉลาดทางอารมณ์. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข. 2543. หน้า 19.
ประเวศ วะสี. การพัฒนามนุษย์แนวใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: หมอชาวบ้าน. 2545. หน้า 55-56.
พระคัมภีรญาณ อภิปุญโญ. คู่มือก่อนท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้และศึกษาพุทธศาสนาในอินเดีย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. 2559. หน้า 9.
พระอาจารย์ดร.ณัฏฐวัฒน์ ตั้งปฐมวงศ์ (ญาณปฺปโภ). 2564. การเป็นสมมุติ ?สงฆ์?: สำนึกและความ รับผิดชอบ. บทความวิชาการ. (ออนไลน์). [สืบค้นเมื่อ 2 ต.ค. 2564]; เข้าถึงได้จาก https://www.blockdit.com.2564.
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต. ธรรมะเก็บตก 15-17. ราชบุรี: มูลนิธิพระสงบ มนสฺสนฺโต. 2547. หน้า 58-64.
เยาวนาฎ ผลิตนนท์เกียรติ. Resilience concept paper. กรุงเทพฯ: สำนักพัฒนาสุขภาพจิต. [ม.ป.ท.]; 2551. หน้า 5-6.
Cook, S.W., & Heppner, P.P. A Psychometric Study of Three Coping Measures. Educational and psychological Measurement, 1997. Vol.57, No.6. Pp. 28.
Center for Creative Leadership. (2020). How to Create a High Learning Team. [Online]. [Retrieved Oct. 20, 2021] from https://www.ccl.org/articles/leading- effectivelyarticles/how-to-create-a-high-learning-team/
Cooper, C.L., & Marshall, J. Occupational sources of Stress : A Review of the Literature Ralating to Coronary Heart Disease and Mental Health. Journal of Occupational Psychology. 1976. Pp. 220
Ignatavicius, D.D & Bayne. Medical-Surgical Nursing. Philadelphai : W.B.Saunders Company. 1991. Pp. 124.
Ivshin, E. The study of the meaning of work, emotional intelligence and conflict styles in the workplace in the 21st century. Dissertation Abstracts International, 2001. 62 (02B), PP. 1127.
Katz, D., & Kahn, R.L. The Social Psychology of Organization (2nd ed.). New York: John Wiley & Sons. 1978. Pp. 275.
Lazarus, R.S., & Folkman, S. Stress, Appraisal, and coping. New York : Springer Publishing. 1984. Pp. 124.
Lessig, L. Code and Other Laws of Cyberspace. HK, Hong Kong Ltd. 1999. Pp. 59.
Goleman, D. Working with Emotional Intelligent. New York : Bantam Books. 1999. Pp. 124.
Goleman, D.P. Emotional Intelligent : Why It Can Matter More Than IQ for Character, Health and Lifelong Achievement. New York : Bantam Books. 1995. Pp. 43-44.
Greenberg, J. Managing behavior in organizations (3rd ed.). Upper Saddle River, NJ: Prentice- Hall. 2002. Pp. 148-149.
Organ, D.W. Organizational Citizenship Behavior : The good soldier Syndrome. Lexington, MA : Lexington Book. 1988. Pp. 88-89.
Malhotra, N. K., Kim, S. S., & Agarwal, J. Internet users' information privacy concerns (IUIPC): The construct, the scale, and a causal model. Information Systems Research, 2004. 15 (4), Pp. 336-355.
Monat, A, & Lazarus, R. Stress and Coping. New York : University Press. 1978. Pp. 122-123.
Moorman, R. H., & Blakely, G. L. Individualism-collectivism as an individual difference predictor of organizational citizenship behavior. Journal of Organizational Behavior, 1995. 16, Pp. 127-142.
Keith, M. J., Thompson, S. C., Hale, J., Lowry, P. B., & Greer, C. Information disclosure on mobile devices: Re-examining privacy calculus with actual user behavior. International journal of human-computer studies, 2013. 71 (12), 1163-1173.
Salovey,P., & Mayer, J.D. Emotional intelligence imagination. Cognition and Personality, 1990. 9, Pp. 185-211
Van Dyne, L., Graham, J.W. and Dienesch, R.M. Organizational citizen ship behavior construct redefinition, measurement, and validation. Academy of Management Journal. 1994. 37: Pp. 765-802.
